Followers

Powered By Blogger

24.4.10

เข้าข้างคนดีกันเถอะ.....พอทีความจริงวันนี้


ในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โชซุนอิลโบ เรื่อง "ระวังประชานิยม" เกริ่นถึงสถานการณ์การเมืองในไทยว่ากลุ่มผู้ประท้วงเกิดปะทะกับทหารเมื่อวันเสาร์(10) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 รายและบาดเจ็บ 870 คน หลังจากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน

บทบรรณธิการนี้ย้อนความว่าความรุนแรงระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้บุกเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมอาซียนซัมมิทบวก3 เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการประชุม และผู้นำประเทศ 16 ชาติ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงประธานาธิบดี ลีเมียงบัค ต้องขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อหลบหนีออกมาโดยเฮลิคอปเตอร์

บรรณาธิการของโชซุนอิลโบ ชี้ว่าศูนย์กลางของผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลคืออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งในปี 2001 และได้รับเลือกให้กลับมาอีกครั้งในปี 2005 แต่ในเดือนมกราคม 2006 เขาและครอบครัวขายหุ้นของบริษัทเทเลคอมแห่งหนึ่งมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปให้แก่บริษัทเพื่อการลงทุนแห่งรัฐของสิงคโปร์โดยปราศจากการจ่ายภาษี

แต่ที่ปรากฎตามออกมานั่นคือมันยังแสดงให้เห็นว่าเขาใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างความมั่งคั่งแก่ธุรกิจของตนเอง หลีกเลี่ยงภาษี รับสินบนและฉ้อฉลการประมูล โดยในเดือนกุมภาพันธ์ ศาลฎีกาของไทย พิพากษายึดทรัพย์ที่ผิดกฎหมายของเขาเป็นเงินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท

ทักษิณ พเนจรไปทั่วโลกนับตั้งแต่ถูกรัฐประหารโค่นล้มอำนาจในปี 2006 ขณะที่ผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเคลื่อนขบวนไปทั่วเมืองหลวงเพียงเพราะต้องการเห็นเขากลับมาจนทำให้ประเทศกำลังกลายเป็นรัฐแห่งสงครามกลางเมือง ทั้งนี้ ทักษิณ เป็นผู้นำกลุ่มสนับสนุนเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนาคนยากจนทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศผ่านทางทีวีดาวเทียมและข้อความโทรศัพท์มือถือ

โชซุนอิลโบ ระบุว่าเหตุผลที่ผู้สนับสนุนทักษิณ ต้องการเห็นเขากลับมาแม้อดีตนายกรัฐมตนตรีรายนี้คอร์รัปชันอย่างมโหฬารเพราะพวกเขาถูกล่อด้วยนโยบายประชานิยม โดยหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่ง ทักษิณ พักชำระหนี้เกษตร 3 ปี มอบสิทธิรักษาในสถานพยาบาลของรัฐในราคา 30 บาท มอบเงินทุน 1 ล้านบาทให้แก่แต่ละหมู่บ้านภายใต้ข้ออ้างขยับช่องว่างรายได้ระหว่างผู้อยู่อาศัยในเมืองและชาวนา

อย่างไรก็ตามนโยบายที่ดูแสนจะกรุณานั้นจบลงที่เงินทุนในคลังของรัฐเหือดหายลงไป สุดท้ายแล้ว ทักษิณ ก็ถูกขับออกจากตำแหน่งหลังต้องเผชิญความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากคนชั้นกลาง ผู้ที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อคุณภาพการรักษาที่เสื่อมทรามลงไปทั้งที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น

ทว่าอีกด้านหนึ่งคนไทยที่มีรายได้น้อยได้เสพติดสิ่งที่ได้มาเปล่าๆเสียแล้ว และไม่มีวิธีเยียวยาประชาชนจากการเสพติดนโยบายประชานิยม ทั้งนี้ไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่เจอกับปัญหานี้ อาร์เจนตินา ที่เคยเป็นรัฐเจริญที่สุดชาติหนึ่งในบรรดาประเทศละตินอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 สุดท้ายก็จบลงด้วยการกลับสู่สถานะโลกที่ 3 หลังจากพยายามทำตามความต้องการของประชาชนที่เคยชินนโยบายประชานิยมอย่างไม่สามารถถอนตัวได้

บรรณาธิการของโชซุนอิลโบ ปิดท้ายว่า ในเกาหลีใต้ พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดด้วยนโยบายที่หวังชนะใจประชาชนก่อนหน้าศึกเลือกตั้งท้อนถิ่นในวันที่ 2 มกราคม โดยพรรคเดโมแครตปาร์ตี เสนอใช้เงินภาษีจำนวน 1.5 ล้านล้านวอน มอบสิทธิ์เรียนฟรีแก่นักเรียน 5.48 ล้านคน ขณะที่พรรคแกรนด์ เนชันแนล ปาร์ตี ออกนโนบาย 9 ข้อ มีเป้าหมายนำเงินรัฐกว่า 1.22 ล้านวอนมาช่วยคนยากจน ซึ่งทั้งสองพรรคการเมืองควรดูเหตุประท้วงในไทยเป็นกรณีศึกษาเพราะนโยบายประชานิยมเป็นเสมือนแหวนแห่งลางร้าย

--------------------------------------------------------------------------------
คนทั่วโลกเข้าใจความเลวร้าย.....ของระบอบทักษิณ.....แต่คนไทยจำนวนไม่น้อย..ยังหูหนวกตาบอดยกย่องการบริหารของระบอบทักษิณที่ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์....แม้ถึงทุกวันนี้ยังมีคนเถียงให้นักโทษชายทักษิณ...ร่ำไป...โงหัวไม่ขึ้น....น่าอเน็จอนาจคนพวกนี้จริงๆ...ที่สำคัญคนพวกนี้ไม่ใช่เป็นชาวบ้านชาวเมืองที่ยากแค้น.....แต่เป็นผู้ที่มีโอกาสรับข้อมูลข่าวสารได้อย่างเต็มที่.....แต่ยังเข้าข้างคนชั่วอยู่เสมอไม่เสื่อมคลาย

No comments: